Author: Thailand Super Series

วันนี้เรารวบรวมเกมแข่งรถ Digital Racing ภาพสวยๆ ที่น่าเล่นในรูปแบบ PlayStation มาให้ชมกัน แต่ละเกมสุดยอดทั้งนั้น

เกมแข่งรถ Digital Racing ภาพสวยๆ ที่น่าเล่น

ในรูปแบบ PlayStation มาให้ชมกัน แต่ละเกมสุดยอดทั้งนั้น

TSS Library – ทำความรู้จักกับ Formula E การแข่งขันเพื่ออนาคต ความเร้าใจในสไตล์รักษ์โลก

Formula E คือ การแข่งขันรถล้อเปิด ที่นั่งเดี่ยว ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% บรรจุให้เป็น 1 ในซีรีส์ของการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่จัดขึ้นภายใต้การดูแลของสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) ได้เริ่มจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2014 ในชื่อ ABB FIA Formula E Championship มีเป้าหมายเพื่อพัฒนารถแข่งควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยประเดิมสนามแรกที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนและได้จัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

รูปภาพจาก : https://electricvehicleweb.in/

กดอ่านต่อตามลิงค์นี้ได้เลย…https://www.thailandsuperseries.net/ทำความรู้จักกับ-formula-e-การแข่/(opens in a new tab)

ทำความรู้จักกับ Formula E การแข่งขันเพื่ออนาคต ความเร้าใจในสไตล์รักษ์โลก

Formula E คือ การแข่งขันรถล้อเปิด ที่นั่งเดี่ยว ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% บรรจุให้เป็น 1 ในซีรีส์ของการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่จัดขึ้นภายใต้การดูแลของสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) ได้เริ่มจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2014 ในชื่อ ABB FIA Formula E Championship มีเป้าหมายเพื่อพัฒนารถแข่งควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยประเดิมสนามแรกที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนและได้จัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

รูปภาพจาก : https://electricvehicleweb.in/

ในช่วงการแข่งขันปี 2018-2019 ที่ผ่านมา รถแข่ง “Formula E Generation 2” ได้ถูกเปิดตัวและนำมาใช้ในการแข่งขัน โดยพัฒนาอัพเกรดขึ้นมาทั้งในเรื่องขนาดแบตเตอร์รี่และกำลังส่งของมอเตอร์ไฟฟ้า โดยแบตเตอร์รี่รุ่นใหม่นี้สามารถเก็บพลังงานไฟฟ้ามากกว่ารุ่นเก่าถึง 2 เท่า อยู่ที่ 54 kWh ส่งผลให้นักแข่งไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรถระหว่างการแข่งขัน ส่วนมอเตอร์ก็แรงขึ้นอีก 50 kW สามารถทำความเร็วสูงสุดได้เพิ่มขึ้น ตัวถังก็ได้ถูกออกแบบใหม่และติดตั้ง Halo เพื่อระบบความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นของนักแข่งในกรณีเกิดอุบัติเหตุ มาพร้อมแถบไฟ LED แสดงสถานะของโหมดการขับขี่อีกด้วย ปัจจุบันมีทีมเข้าร่วมถึง 12 ทีม ประกอบไปด้วยนักแข่ง 24 คน และรถแข่งอีก 24 คัน

รูปภาพจาก : https://formulaspy.com/

โดยกฎกติกาการแข่งขันคร่าวๆ มีดังนี้

Practice
ในทุกๆ สนามจะมีการซ้อมทั้งหมด 2 รอบ รอบแรกจะใช้เวลา 45 นาที รอบที่ 2 จะใช้เวลา 30 นาที แต่ละคันจะมีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 250 กิโลวัตต์ นอกจากนี้การชาร์จไฟรถจะอนุญาตทำได้จนถึงในช่วงระหว่างรอบ Practice นี้เท่านั้น

Qualifying
ในรอบควอลิฟายจะมีเวลาให้ทั้งหมด 1 ชั่วโมง ซึ่งนักแข่งทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 6 คัน แต่ละกลุ่มจะมีเวลา 6 นาทีในการทำเวลาให้เร็วที่สุด ผู้ที่ทำเวลาในรอบ Qualifying ได้เร็วที่สุดนั้นจะได้รับคะแนนพิเศษเพิ่มไป 1 คะแนน นอกจากนี้นักแข่งที่ทำเวลาเร็วที่สุด 6 อันดับแรกจะได้สิทธิเข้ารอบ Super Pole โดยในรอบ Super Pole นั้นนักแข่งที่ทำเวลาเป็นอันดับ 6 จะได้สิทธิออกวิ่งก่อนเมื่อนักแข่งอันดับที่ 6 วิ่งผ่านเส้นจับเวลา Pit Lane จะเปิดไฟเขียวให้นักแข่งที่ทำเวลาเป็นอันดับ 5 ออกไปวิ่งต่อ และทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งอันดับ 1 ได้ออกวิ่ง และในรอบนี้ผู้ที่ทำเวลาเร็วที่สุดจะได้ตำแหน่ง Pole Position ไปพร้อมกับคว้า 3 คะแนน ซึ่งตลอดการควอลิฟายนักแข่งสามารถเรียกกำลังรถได้เต็มที่ 250 กิโลวัตต์

รูปภาพจาก : www.electrive.com

Races
การแข่งขัน หรือเรียกกันว่า E-Prix (อีปรีซ์) เป็นการออกตัวแบบ Standing Start จะไม่มีการวิ่ง Formation Lap เหมือนการแข่งขัน Formula 1 ซึ่งเริ่มแรกรถแข่งจะจอดอยู่บน Dummy Grid ก่อนที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ Gird Start ของตัวเอง เพื่อทำการออกตัว การแข่งขันจะใช้เวลา 45 นาทีบวก 1 รอบ สำหรับโหมดการแข่งขันรถแข่งจะให้กำลังสูงสุด 200 กิโลวัตต์ นอกจากนี้แล้วนักแข่งที่
สามารถทำ Fastest Lap ได้จะได้รับคะแนนพิเศษ 1 คะแนนมาครอง

รูปภาพจาก : www.schaeffler.com

Attack Mode
โหมดโจมตี เป็นโหมดที่นักแข่งจะต้องขับผ่านโซนพิเศษที่มีสัญลักษณ์บ่งบอกบนเส้นทางที่ใช้ในระหว่างแข่งขันเท่านั้น เมื่อนักแข่งใช้ Attack Mode จะมีไฟ LED ปรากฏอยู่บนบริเวณ Halo แสดงการทำงานของโหมดนี้อีกด้วย ซึ่งสามารถเพิ่มกำลังรถ และเพิ่มกลยุทธ์ในการใช้พลังงานได้ นักแข่งจะต้องใช้โหมดทั้ง Attack Mode และ Race Mode ขณะแข่งขัน โดยโหมดโจมตีทำให้นักแข่งสามารถเข้าถึงพลังงานสูงสุดที่ 235 กิโลวัตต์

รูปภาพจาก : www.speedcafe.com

Fan Boost
ถือเป็นอีกหนึ่งความแปลกใหม่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตเลยทีเดียว เป็นการทำให้สาวก Formula E ได้มีส่วนร่วมของการแข่งขัน โดยที่แฟนคลับสามารถโหวตให้กับนักแข่งที่ตนเองชื่นชอบผ่านทาง Website ของ Formula E และนักแข่งที่ได้รับคะแนนนิยมมากที่สุด 5 อันดับแรกจะได้รับอนุญาตให้ใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เรียกว่า Boost (บูสท์) ซึ่งจะสามารถใช้งานได้เพียงแค่ 5 วินาทีของครึ่งหลังในการแข่งขันเท่านั้น

รูปภาพจาก : https://edition.cnn.com/

ข้อมูลจำเพาะของรถ Formula E (Gen 2)

• Length 5160 mm

• Width 1770 mm

• Height 1050 mm

• Front track 1553 mm

• Rear track 1505 mm

• Ride height 75 mm (max)

• Wheelbase 3100 mm

• Minimum weight (include driver) 903 kg (battery 385 kg)

• Maximum power 250 kW, equivalent to 335 bhp

• Race Mode (maximum power available) 200 kW, equivalent to 270 bhp

• Maximum power regeneration 250 kW

• Maximum speed 280 km/h

• 0-100 km/h 2.8s

รูปภาพจาก : www.bmwblog.com

เนื่องจากว่ารถแข่ง Formula E สร้างมลภาวะทางเสียงและทางอากาศในปริมาณที่น้อยมากๆ การแข่งขัน Formula E จึงสามารถจัดการแข่งขันแบบ Street Circuit ในเมืองหลวงใหญ่ๆได้ ซึ่งทำให้คนดูสามารถเข้าถึงการแข่งขันได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น การแข่งขัน Paris E-Prix ที่จัดขึ้นใจกลางเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส รวมไปถึง London E-Prix จัดขึ้นที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ

รูปภาพจาก : https://racingnews365.com/

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.fiaformulae.com/

https://www.facebook.com/FormulaEThailand/?ref=page_internal

https://www.autoinfo.co.th/article/304825/

https://motortrivia.com/…/formula-e-2016-17-season…/

https://www.autoinfo.co.th/article/261219/

https://www.bangkokinternationalautosalon.com/auto…/2523/

รูปภาพจาก : https://f1i.com/

รูปภาพจาก : http://techzle.com/

TSS Library – ที่มาของธงตราหมากรุก #chequeredflag

ในการแข่งขันรถยนต์สัญญาณธงถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากสำหรับนักแข่งที่ลงทำการแข่งขัน รวมทั้งผู้ชมการแข่งขัน เนื่องจากสัญญาณธงนั้นจะเป็นตัวบอกเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นภายในสนาม รวมทั้งเป็นการสื่อสารระหว่างนายสนามกับนักแข่ง ซึ่งสัญญาณธงที่คุ้นตาที่สุดของท่านนั้นก็คือ ธงตราหมากรุกที่ใช้โบกสะบัดเมื่อเข้าเส้นชัยนั่นเอง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าธงตราหมากรุกนั้นมีที่มาจากไหน และเกิดขึ้นได้อย่างไร?

รูปภาพจาก : www.motorsportmagazine.com

รูปภาพจาก : www.thestar.com

กดอ่านต่อตามลิงค์นี้ได้เลย…https://www.thailandsuperseries.net/ที่มาของธงตราหมากรุก-chequeredflag/(opens in a new tab)

ที่มาของธงตราหมากรุก #chequeredflag

ในการแข่งขันรถยนต์สัญญาณธงถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากสำหรับนักแข่งที่ลงทำการแข่งขัน รวมทั้งผู้ชมการแข่งขัน เนื่องจากสัญญาณธงนั้นจะเป็นตัวบอกเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นภายในสนาม รวมทั้งเป็นการสื่อสารระหว่างนายสนามกับนักแข่ง ซึ่งสัญญาณธงที่คุ้นตาที่สุดของท่านนั้นก็คือ ธงตราหมากรุกที่ใช้โบกสะบัดเมื่อเข้าเส้นชัยนั่นเอง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าธงตราหมากรุกนั้นมีที่มาจากไหน และเกิดขึ้นได้อย่างไร?

รูปภาพจาก : www.motorsportmagazine.com

รูปภาพจาก : www.thestar.com

ที่มาของธงตราหมากรุกนั้นไม่ได้มีบันทึกไว้เป็นหลักฐานอย่างแน่ชัด แต่มีภาพถ่ายที่เก่าแก่อยู่ภาพหนึ่งจากปี 1906 ภายในภาพเป็นการใช้ธงตราหมากรุกสำหรับการเข้าเส้นชัยการแข่งขันรถยนต์ชิงถ้วย Vanderblit Cup จัดขึ้นที่ Long Island, New York อีกทั้งในปีเดียวกันนั้น พนักงานของ Packard Motor Car ที่ชื่อ Sidney Waldon ได้คิดค้นธงเพื่อทำเครื่องหมาย “Checking Stations” (ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า “Check Points”) ในการจัดกิจกรรม Glidden Tour นี่คือสิ่งที่ยืนยันแน่ชัดว่า ในช่วงปี 1906 ได้มีการใช้ธงตราหมากรุกกันแล้ว ว่าแต่ก่อนหน้านี้ล่ะ? ต้นกำเนิดจริงๆเป็นอย่างไร?

รูปภาพจาก : www.reddit.com

มีสมมติฐานหนึ่งได้ให้ข้อมูลต้นกำเนิดของธง
ตราหมากรุกไว้ว่า มีการใช้ตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ในกีฬาแข่งม้าของชาวอเมริกันที่เข้ามาตั้งรกรากในแถบมิดเวสต์ในยุคแรกๆ หลังจากจบงานจะมีการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีคนนำผ้าปูโต๊ะลายตารางหมากรุกมาโบกไปมา เป็นการส่งสัญญาณให้ทุกคนรู้ว่าการแข่งขันได้เสร็จสิ้นลงและอาหารสำหรับการเฉลิมฉลองนั้นพร้อมแล้ว

รูปภาพจาก : www.dailymail.co.uk

อีกหนึ่งสมมติฐานเชื่อว่า เริ่มแรกที่มีการแข่งขันรถยนต์นั้นจะจัดขึ้นบนทางลูกรัง อีกทั้งยังมีผู้คนมากมายที่เข้ามาร่วมชม จึงใช้ธงตราหมากรุกลายตารางสีขาว-ดำ เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันทราบถึงการสิ้นสุดการแข่งขัน เพราะจะทำให้มองเห็นได้ชัดจากทางที่มีฝุ่นตลบเกิดขึ้นในระหว่างการแข่ง และแตกต่างจากสีชุดแต่งกายของผู้เข้าชมอีกด้วย

รูปภาพจาก : www.simplemost.com

ไม่ว่าธงตราหมากรุกจะถูกใช้ครั้งแรกเมื่อไหร่ ที่ไหน เราไม่อาจทราบข้อมูลที่แท้จริงได้ ความจริงของเรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในความลึกลับและเป็นปริศนาที่คงอยู่ยาวนานที่สุดในกีฬามอเตอร์สปอร์ตต่อไป เราคงได้แต่ถกเถียงกันถึงข้อเท็จจริง แล้วแฟนๆ ชาวมอเตอร์สปอร์ตคิดอย่างไรกับเรื่องนี้กันบ้างครับ

รูปภาพจาก : www.thesun.ie

ขอบคุณที่มาข้อมูล :
https://www.windingroad.com/…/the-mysterious-origins…/

https://sites.google.com/…/his…/1906-checkered-race-flag

https://en.wikipedia.org/wiki/Racing_flags

https://www.simplemost.com/why-checkered-flag-used-end…/

https://matraxlubricants.com/3127-2/

ตารางการแข่งขันรถ Formula e สนามที่ 12 และ 13

2021 Heineken® London E-Prix
SUNDAY 25 JULY, 2021


Free Practice 3
08:00 – 08:45 (ตามเวลาประเทศอังกฤษ)
14:00 – 14:45 (ตามเวลาประเทศไทย)


Qualifying and Super Pole
10:00 – 11:00 (ตามเวลาประเทศอังกฤษ)
16:00 – 17:00 (ตามเวลาประเทศไทย)


Round 13: Heineken London E-Prix (45 mins + 1 lap)
14:04 – 15:00 (ตามเวลาประเทศอังกฤษ)
20:04 – 21:00 (ตามเวลาประเทศไทย)
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.fiaformulae.com/…/2020-2021/london/schedule

ขอแสดงความยินดีกับ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดหญิง และสมาคมเทควันโด

Thailand Super Series ขอแสดงความยินดีกับ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดหญิง และสมาคมเทควันโด 🇹🇭 ที่สามารถคว้าเหรียญทองแรกในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 นำความภูมิใจให้กับพี่น้องชาวไทย และเป็นเหรียญทองเหรียญแรกของกีฬาเทควันโดไทย congratulations 🎉❤️

TSS Library – Pretty vs Race Queen ถือกำเนิดครั้งแรกเมื่อใด?

หากพูดถึงงานหรือกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์แล้ว สิ่งที่เป็นสีสันในงานนอกจากรถยนต์แล้วนั่นคือ “พริตตี้” นั่นเอง ย้อนกลับไปเมื่อ 34 ปีก่อน “Toyota” คือค่ายรถยนต์ค่ายแรกที่นำ “พริตตี้” มาเป็น 1 ในกลยุทธ์ทางการประชาสัมพันธ์ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง ในแง่การตอบรับของ
สาธารณชนทั่วไป

รูปภาพจาก : www.grandprix.co.th

ด้วยเหตุนี้ในระยะเวลาไม่นานการมี “พริตตี้” จึงขยายความนิยมแพร่หลายไปอย่างมาก ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในแวดวงยานยนต์เท่านั้น แต่ยังขยายฐานความนิยมไปยังสินค้าอื่นๆ มากมายอีกด้วย

กดอ่านต่อตามลิงค์นี้ได้เลย…https://www.thailandsuperseries.net/pretty-vs-race-queen-ถือกำเนิดครั้งแรกเม/

Pretty vs Race Queen ถือกำเนิดครั้งแรกเมื่อใด?

หากพูดถึงงานหรือกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์แล้ว สิ่งที่เป็นสีสันในงานนอกจากรถยนต์แล้วนั่นคือ “พริตตี้” นั่นเอง ย้อนกลับไปเมื่อ 34 ปีก่อน “Toyota” คือค่ายรถยนต์ค่ายแรกที่นำ “พริตตี้” มาเป็น 1 ในกลยุทธ์ทางการประชาสัมพันธ์ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง ในแง่การตอบรับของ
สาธารณชนทั่วไป

รูปภาพจาก : www.grandprix.co.th

ด้วยเหตุนี้ในระยะเวลาไม่นานการมี “พริตตี้” จึงขยายความนิยมแพร่หลายไปอย่างมาก ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในแวดวงยานยนต์เท่านั้น แต่ยังขยายฐานความนิยมไปยังสินค้าอื่นๆ มากมายอีกด้วย

รูปภาพจาก : https://hilight.kapook.com/

รูปภาพจาก : https://hilight.kapook.com/

เวลาดูการแข่งขันรถยนต์คุณคงเคยเห็นสาวสวยยืนกางร่มให้กับเหล่านักแข่งรถในทีมต่างๆ หลายคนคงเข้าใจว่าสาวสวยเหล่านี้ คือ “พริตตี้” แต่จริงๆ แล้วสาวสวยที่คอยมายืนกางร่มให้กับเหล่านักแข่งในสนามแข่งรถนี้เรียกว่า “เรซควีน”

รูปภาพจาก : https://aretcars.com/

เรซควีน (Race Queen) เป็นนิยามคำศัพท์ของชาวญี่ปุ่นที่กล่าวถึงสาวสวยที่เป็นลูกทีมในสนามแข่งรถ “เรซควีน” เริ่มมีบทบาทครั้งแรกในรูปแบบของสาวสวยประจำรายการแข่งขันรถยนต์ช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 เมื่อนางแบบ “ริสะ โอกาวะ” ได้รับคำเชิญไปเป็นตัวแทนของการจัดการแข่งขันรถยนต์หลังจากนั้น “ริสะ โอกาวะ” จึงได้รับการประกาศอย่าง
เป็นทางการเพื่อเป็นเกียรติแก่เธอว่า “เรซควีน” นั่นเอง

รูปภาพจาก : https://minkara.carview.co.jp/

เมื่อพูดถึง “พริตตี้” และ “เรซควีน” แล้ววันนี้ทางแอดจึงได้นำภาพของเหล่าบรรดาสาวสวยในทีมต่างๆ ของรายการ Thailand Super Series มาฝากทุกท่านกันครับ

บรรดาสาวสวยในทีมต่างๆ จากรายการ Thailand Super Series

เครดิตข้อมูลจาก :
https://th.wikipedia.org/wiki/เรซควีน
https://board.postjung.com/636150
https://www.thailandexhibition.com/News/5610