Author: Thailand Super Series

SUPER FORMULA การแข่งรถล้อเปิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย

SUPER FORMULA เป็นการแข่งรถประเภทล้อเปิด-ที่นั่งเดี่ยว (Open-wheel Single-seater) จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นการแข่งขันรถ Formula ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย เป็นรายการที่ได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่องและดีเยี่ยมจากทีมแข่งรวมถึงแฟนๆ SUPER FORMULA ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น

การแข่งขัน SUPER FORMULA เดิมชื่อรายการ Formula 2000 เปิดตัวครั้งแรกในปี 1973 ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นรายการ Formula Two ในปี 1978 รวมทั้ง Formula 3000 ในปี 1987 และปี 1996 ได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในชื่อ Formula Nippon

จนกระทั่งในปี 2013 ได้มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่อีกครั้งด้วยการเปลี่ยนชื่อการแข่งขันเป็น Japanese Championship SUPER FORMULA รวมทั้งการอัพเกรดตัวรถและยกระดับมาตรฐานการแข่งขันจากภายในประเทศไปสู่ทั่วภูมิภาคของเอเชีย โดยมีเป้าหมายที่ให้การแข่งขันนี้เทียบเท่ากับ Formula 1 และ Indy Car

หลังจากนั้นในปี 2016 ได้มีการเปลี่ยนชื่อการแข่งขันอีกครั้งเป็น Japanese SUPER FORMULA Championship ซึ่งจัดขึ้นทั้งหมด 7 สนาม สำหรับสนามที่ใช้ในการแข่งขันนั้นก็จะสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น เป็นต้นว่าสนาม Suzuka Circuit, Fuji Speedway รวมไปถึง Twin Ring Motegi หรือแม้แต่สนามที่มีรูปแบบดั้งเดิมอย่าง Sportsland Sugo, Okayama International Circuit และ Autopolis

รายการ SUPER FORMULA ถือเป็นบันไดของนักแข่งไปสู่การแข่งขันระดับโลกอย่าง Formula 1 อาทิ Kunimitsu Takahashi, Kazuyoshi Hoshino, Satoru Nakajima หรือ Toranosuke Takagi อีกทั้งยังมีนักแข่งระดับแนวหน้าระดับโลกได้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการนี้เช่นกัน อาทิ Felix Rosenqvist, Stoffel Vandoorne รวมทั้ง Pierre Gasly

ข้อมูลจำเพาะของรถ

Chassis SF19
• Manufacturer Dallara Automobili S.p.A. (Italy)
• Length 5,233mm
• Wheelbase 3,115mm
• Width 1,910mm
• Height 960mm
• Minimum weight 670kg
• Gearbox Ricardo 6-speed gearbox with paddle shift
• Brakes Brembo calipers, Brembo carbon discs
• Steering system KYB electric power steering system
• Front suspension set up Pushrod, torsion-bar spring
• Rear suspension set up Pushrod suspension
• Safety standards Complies with 2016-17 FIA F1 safety regulations

Engine
• Manufacturer / Supplier / Model
1. Toyota Motor / TRD / TRD 01F
2. Honda Motor / M-TEC / HR-417E
• Displacement 2,000cc
• Type Inline-four, direct injection
• Supercharger Garrett turbocharger
• Minimum weight 85kg
• Power 405kw (550ps) and above
• Limiter Fuel flow restrictor

Tires
• Size Front: 270/620/R13, Rear: 360/620/R13

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก https://superformula.net 

TSS Library จับตามองกับการแข่งขัน W Series รายการนี้เฉพาะสุภาพสตรีเท่านั้น!!

W Series เปิดตัวสู่สาธารณชนเมื่อเดือนตุลาคม 2018 รายการนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนนักแข่งหญิงให้ก้าวขึ้นไปสู่การแข่งขันระดับสูงสุดของกีฬามอเตอร์สปอร์ตโดยเฉพาะ Formula 1 การแข่งขันนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายคนในวงการมอเตอร์สปอร์ตรวมถึงอดีตนักแข่ง Formula 1 อย่าง David Coulthard และวิศวกรชื่อดังอย่าง Adrian Newey กดอ่านต่อตามลิงค์นี้ได้เลย…https://www.thailandsuperseries.net/จับตามองกับการแข่งขัน-w-series/(opens in a new tab)

จับตามองกับการแข่งขัน W Series รายการนี้เฉพาะสุภาพสตรีเท่านั้น!!

W Series เปิดตัวสู่สาธารณชนเมื่อเดือนตุลาคม 2018 รายการนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนนักแข่งหญิงให้ก้าวขึ้นไปสู่การแข่งขันระดับสูงสุดของกีฬามอเตอร์สปอร์ตโดยเฉพาะ Formula 1 การแข่งขันนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายคนในวงการมอเตอร์สปอร์ตรวมถึงอดีตนักแข่ง Formula 1 อย่าง David Coulthard และวิศวกรชื่อดังอย่าง Adrian Newey

ฤดูกาลแรกของ W Series เริ่มต้นขึ้นในปี 2019 โดยการเป็น Support Races ให้กับ DTM มีทั้งหมดด้วยกัน 6 สนามซึ่งแข่งภายในยุโรปทั้งสิ้น และสำหรับปฎิทินการแข่งขัน W Series 2020 ที่ผ่านมาได้ประกาศให้ผู้ที่ติดอันดับ 12 คนแรกจากการแข่งขันชิงแชมป์ในปี 2019 นั้นผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติ แต่การแข่งขัน W Series 2020 ต้องถูกยกเลิกไปอันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ได้จัดให้มีการแข่งขันเป็นแบบ Virtual Races แทน ในชื่อรายการ W Series Esports League 2020

W Series กลับมาอีกครั้งในปี 2021 นี้ ด้วยการเป็น Support Races ให้กับ Formula 1 ซึ่งปีนี้จะมีทั้งหมด 8 สนามด้วยกัน การแข่งขันนี้ประกอบด้วยนักแข่งหญิงมากฝีมือที่ผ่านการคัดเลือก 18 คนจาก 54 คนทั่วโลก และการแข่งขันในปี 2021 นี้จะเริ่มต้นให้คะแนน FIA Super License สำหรับผู้ที่ติดอันดับ 8 คนแรกเท่านั้น นอกจากนี้รถที่ใช้ในการแข่งขัน W Series นั้นเป็น TATUUS F3 T-318 ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดล่าสุดของ FIA ในรถ Formula 3

ข้อมูลจำเพาะของรถยนต์

• ENGINE 4-cylinder turbocharged 270hp engine tuned by Autotecnica Motori

• GEARBOX Sadev SL-R 82 six speed gearbox with LSD and Magneti Marelli, paddle shift gear change

• ELECTRONICS ECU and data acquisition by Magneti Marelli

• SUSPENSION
Front : double wishbone with pushrods
Rear : double wishbone with pushrods

• DAMPERS Koni two way adjustable

• BRAKES Brembo

• WHEELS
Front : ATS Aluminium 10″ x 13″
Rear : ATS Aluminium 12″ x 13″ 

ขอบคุณข้อมูลจาก https://wseries.com

TSS Library Silverstone Circuit สนามปราบเซียน

Silverstone Circuit เจ้าของฉายา Home of British Motorsport เป็นอีกหนึ่งสนามแข่งรถที่เก่าแก่มากอีกหนึ่งสนามเลยก็ว่าได้ สนามแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ย่าน Buckinghamshire (บัคคิงแฮมเชอร์) ใกล้เมือง Silverstone (ซิลเวอร์สโตน) ณ Northamptonshire (นอร์แธมตันเชอร์) ประเทศอังกฤษ ก่อสร้างขึ้นในปี 1942 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กดอ่านต่อตามลิงค์นี้ได้เลย…https://www.thailandsuperseries.net/ทำความรู้จักกับ-silverstone-circuit-สนาม/(opens in a new tab)

ทำความรู้จักกับ Silverstone Circuit สนามปราบเซียน

Silverstone Circuit เจ้าของฉายา Home of British Motorsport เป็นอีกหนึ่งสนามแข่งรถที่เก่าแก่มากอีกหนึ่งสนามเลยก็ว่าได้ สนามแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ย่าน Buckinghamshire (บัคคิงแฮมเชอร์) ใกล้เมือง Silverstone (ซิลเวอร์สโตน) ณ Northamptonshire (นอร์แธมตันเชอร์) ประเทศอังกฤษ ก่อสร้างขึ้นในปี 1942 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้เป็นสนามบินของกองทัพอากาศอังกฤษ และได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นสนามแข่งรถในปี 1947 โดยรูปแบบของสนามในครั้งแรกที่ใช้นั้นมีระยะ 1 รอบสนามเท่ากับ 2 ไมล์ และมีทางโค้งเพียง 5 โค้งเท่านั้น ตลอด 70 กว่าปีที่ผ่านมาสนามมีการปรับเปลี่ยนผังสนามอยู่หลายครั้งเพื่อให้ทันยุคทันสมัยอยู่โดยตลอด

จนในปี 2011 จึงได้รูปแบบของสนามที่มีความยาวหนึ่งรอบสนามเท่ากับ 3.661 ไมล์ หรือ 5.891 กิโลเมตร เป็นการวิ่งแบบตามเข็มนาฬิกา มีจำนวนโค้งทั้งสิ้น 18 โค้งประกอบไปด้วยโค้งซ้ายจำนวน 8 โค้ง และโค้งขวาอีก 10 โค้ง

และเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดนั่นคือ ปี 2019 ได้มีการปรับผิวแทร็คใหม่เป็นผลให้ทุกทีมต้องเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการเซ็ทยางให้เหมาะสมกับการทำงานมากที่สุด อย่างไรก็ตามโค้งความเร็วสูงและดาวน์ฟอร์ซที่หนักทำให้สนามแห่งนี้เป็นสนามที่ท้าทายกับนักแข่งรวมทั้งทีมงานเป็นอย่างมาก 

Silverstone Circuit เป็นสถานที่จัดการแข่งขัน British Grand Prix ตั้งแต่ปี 1950 จนกระทั่งปี 1987 เป็นต้นมา จึงได้จัดให้มีการแข่งขันเป็นประจำที่นี่ทุกปี เป็นการแข่งขันกีฬาชิงแชมป์โลกที่ใหญ่ที่สุดและมีความเร็วในเรื่องของรถมากที่สุดในสหราชอาณาจักร เป็นเทศกาลสุดสัปดาห์แห่งความสนุก ความตื่นเต้นเร้าใจ และความบันเทิงที่ไร้ขีดจำกัด พร้อมมีกิจกรรมมากมายทั้งในและนอกสนาม 

ปัจจุบันรูปแบบของ Silverstone Circuit ประกอบอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน ดังนี้

1. Arena Grand Prix Circuit มีความยาวรอบสนามถึง 5.891 กิโลเมตรประกอบด้วยโค้งทั้งหมด 18 โค้ง

2. Motorcycle Circuit มีความยาวรอบสนามถึง 5.900 กิโลเมตรประกอบด้วยโค้งทั้งหมด 18 โค้ง

3. International Circuit มีความยาวรอบสนาม 2.979 กิโลเมตรประกอบด้วยโค้งทั้งหมด 10 โค้ง

4. National Circuit มีความยาวรอบสนาม 2.639 กิโลเมตรประกอบด้วยโค้งทั้งหมด 6 โค้ง

5. Stowe Circuit มีความยาวรอบสนาม 1.281 กิโลเมตรประกอบด้วยโค้งทั้งหมด 5 โค้ง 

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.formula1.com/…/2021/Great_Britain/Circuit.html
https://www.greatbiker.com/motogp2019-siverstone-intro/
https://www.silverstone.co.uk/…/formula-1…/first-time-f1
https://motortrivia.com/2019/07/f1-british-gp-2019-preview/

TSS Library แรง G กับ รถสูตรหนึ่ง

ทุกครั้งที่เรารับชมการแข่งขัน Formula 1 มักจะได้ยินผู้บรรยากล่าวอยู่เสมอว่า “นักแข่งจะต้องต่อสู้กับแรง G มหาศาลในขณะแข่งขัน” ทุกคนเคยสงสัยกันหรือไม่ว่า “แรง G” นั้นคืออะไร วันนี้แอดมีคำตอบให้ทุกคนกันครับ กดอ่านต่อตามลิงค์นี้ได้เลย…https://www.thailandsuperseries.net/แรง-g-กับ-รถสูตรหนึ่ง/(opens in a new tab)

แรง G กับ รถสูตรหนึ่ง

ทุกครั้งที่เรารับชมการแข่งขัน Formula 1 มักจะได้ยินผู้บรรยากล่าวอยู่เสมอว่า “นักแข่งจะต้องต่อสู้กับแรง G มหาศาลในขณะแข่งขัน” ทุกคนเคยสงสัยกันหรือไม่ว่า “แรง G” นั้นคืออะไร วันนี้แอดมีคำตอบให้ทุกคนกันครับ

แรง G ในทางหลักของวิชาฟิสิกส์มาจากคำว่า Gravity ถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติซึ่งทำให้วัตถุดึงดูดเข้าหากัน เช่น แรงดึงดูดของโลกที่ยึดเหนี่ยววัตถุทุกอย่างเอาไว้กับพื้นโลก อย่างไรก็ดี แรง G ที่พูดถึงในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตนั้น ถือเป็นแรงที่มีการเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ตามกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน เช่น การเพิ่มหรือลดความเร็วของวัตถุ หรือการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ ซึ่งการเพิ่มหรือลดความเร็วของวัตถุ หรือการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่นั้น จะต้องมาพร้อมกับอัตราเร่ง ถ้าจะยกตัวอย่างให้ทุกท่านเห็นภาพ ก็คือ เมื่อรถจอดหยุดนิ่งและรถเดินหน้าเหยียบคันเร่งแบบทันทีทันใด จังหวะที่รถออกตัวอย่างรวดเร็วนั้นเราจะรู้สึกเหมือนโดนกระชาก ที่เราคุ้นหูกับคำว่า “หลังติดเบาะ” นั่นเอง

อาการที่เกิดขึ้นกับเราสิ่งนั้นเรียกว่า “แรง G” หรือมักนิยมเรียกกันว่า “G-Forces” แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยด้าน ความเร็ว, น้ำหนักวัตถุ, อัตราเร่ง, การเบรก รวมถึงการเปลี่ยนทิศทาง และจะเกิดแรงกระทำไปในทิศทางตรงกันข้าม ซึ่ง “แรง G” จะเกิดขึ้นในรถ Formula 1 อย่างมากในขณะรถวิ่งทำการแข่งขัน

ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดที่นักแข่งจะต้องฟิตร่างกายให้อยู่ในระดับสูงสุด โดยเฉพาะคอซึ่งเป็นส่วนที่ต้องแบกรับภาระจากการเหวี่ยงหนีศูนย์มากที่สุด

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก https://tonkit360.com/25527

วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ วันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ

วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ วันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถสำนักพระราชวัง

ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ https://wellwishes.royaloffice.th/ ระหว่างวันที่ ๑๐ – ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๔

พระประวัติhttps://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0…

TSS Library ถอดรหัสความซับซ้อนของพวงมาลัยรถ Formula 1

กล่าวกันว่า “ไม่มีกีฬาใดเหมือน Formula 1 อีกแล้วถึงแม้ว่าจะมีกีฬา Motorsport อื่นๆ ที่ยากลำบากก็ตาม” ด้วยเหตุผลยกให้ Formula 1 เป็นสุดยอดแห่ง Motorsport นั้นเนื่องจากนักแข่งต้องพารถของตนฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ อันดุเดือด รวมทั้งกระบวนการการทำงานของรถนับพันประการในขณะที่รถนั้นวิ่งอยู่ ความต้องการเหล่านั้นไม่ได้มาจาก Pit Wall หรือเหล่าวิศวกรผู้อยู่เบื้องหลังเท่านั้น หากแต่มาจากเจ้าชิ้นส่วนเล็กๆ ที่ผลิตมาจาก คาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีราคาสูงลิบ สิ่งนั้นคือ พวงมาลัย นั่นเอง กดอ่านต่อตามลิงค์นี้ได้เลย…https://www.thailandsuperseries.net/ถอดรหัสความซับซ้อนของพ/(opens in a new tab

ถอดรหัสความซับซ้อนของพวงมาลัยรถ Formula 1

กล่าวกันว่า “ไม่มีกีฬาใดเหมือน Formula 1 อีกแล้วถึงแม้ว่าจะมีกีฬา Motorsport อื่นๆ ที่ยากลำบากก็ตาม” ด้วยเหตุผลยกให้ Formula 1 เป็นสุดยอดแห่ง Motorsport นั้นเนื่องจากนักแข่งต้องพารถของตนฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ อันดุเดือด รวมทั้งกระบวนการการทำงานของรถนับพันประการในขณะที่รถนั้นวิ่งอยู่ ความต้องการเหล่านั้นไม่ได้มาจาก Pit Wall หรือเหล่าวิศวกรผู้อยู่เบื้องหลังเท่านั้น หากแต่มาจากเจ้าชิ้นส่วนเล็กๆ ที่ผลิตมาจาก คาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีราคาสูงลิบ สิ่งนั้นคือ พวงมาลัย นั่นเอง

จะมาพูดถึงส่วนต่างๆ อันสลับซับซ้อนของพวงมาลัย Formula 1 เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจมากขึ้น เช่น strat, entry, mark, overtake ไปถึง DRS รวมทั้งปุ่มบนพวงมาลัยเหล่านี้ทำหน้าที่อะไรบ้าง

• Strat Settings
ในทุกๆ เรซล้วนมีลักษณะเฉพาะสนามที่แตกต่างกันไป จึงต้องมีการวางแผนทั้งนักแข่งรวมถึงวิศวกรไว้หลายวิธีด้วยกัน ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น

• MGU-K Settings
ระบบส่งกำลังของ Formula 1 เป็นหนึ่งในระบบที่ซับซ้อนที่สุดในโลก เพื่อให้แน่ใจว่านักแข่งสามารถแก้ไขข้อบกพร่องต่อสถานการณ์ต่างๆ ได้ด้วยตนเองในระหว่างการแข่งขัน วิศวกรของทีมจึงได้ออกแบบการปรับเครื่องยนต์ขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งนักแข่งสามารถควบคุมสวิตช์แบบบิดหมุนได้ผ่านทางพวงมาลัย เช่น สภาพอากาศที่เปียกชื้นเป็นผลทำให้กำลังลดลง แม้แต่ควบคุมกำลังของรถในช่วงระหว่างแข่ง หรือตอน Qualify ตลอดจนพลังงานเชื้อเพลิงต่ำลง หรือพลังงานขัดข้องก็ตาม

• Menu
เมนูนี้จะช่วยให้นักแข่งสามารถควบคุมระบบของรถเกือบทั้งหมดได้ รวมทั้งเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกทุกอย่างผ่านทางเมนู

• Accept
เปรียบได้กับปุ่ม “Enter” บนพวงมาลัย หากมีการเปลี่ยนแปลงจากเมนู หรือการตั้งค่าอื่นๆ ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนได้ทันที

• Mark
เมื่อมีปัญหากับส่วนกลาง, ด้านหน้าของรถ หรือที่ใดก็ตามในสนามแข่ง นักแข่งสามารถทำเครื่องหมาย ณ จุดนั้น เพื่อบันทึกข้อมูลลงไปทำให้นักแข่งสามารถนำสิ่งที่เกิดขึ้นไปปรึกษากับวิศวกรในทีมได้

• Differential Balance
ถูกควบคุมด้วยชุดปุ่มที่สามารถเลื่อนได้เพื่อควบคุมการตั้งค่า Entry, Mid และ Exit ซึ่งช่วยให้นักแข่งสามารถเปลี่ยนสมดุลไปทางซ้ายหรือขวาได้ตลอดการแข่งขัน เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขามีการสมดุลที่ดีที่สุดในทุกๆ โค้ง

• Brake Balance
เป็นปุ่มที่สามารถเลื่อนได้เช่นกัน ซึ่งนักแข่งสามารถปรับเปลี่ยนความสมดุลของเบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้ตลอดการแข่งขัน เพื่อให้แน่ใจว่ามีความสมดุลที่ดีที่สุดในทุกๆ โค้ง

• Energy Recovery
ในบางกรณีที่เรียกว่า Harvest จะอนุญาตให้นักแข่งสามารถกู้คืนพลังงานบางส่วนที่เกิดขึ้นระหว่างการเบรก และเก็บไว้ในระบบไฮบริดของรถเพื่อนำมาใช้ในภายหลัง

• Race Start
เป็นปุ่มที่ใช้ตั้งค่าจำกัดความเร็วเฉพาะ เพื่อให้การเข้าโค้งแรกของการแข่งขันนั้นสมบูรณ์แบบที่สุด

• Neutral
จะมีการเปิดใช้ก็ต่อเมื่อเกียร์บ๊อกซ์ปกติได้รับความเสียหาย จนไม่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ตามปกติ

• Pit-Lane Speed
ปุ่มที่จำกัดความเร็วของรถเมื่อเข้าสู่ Pit-Lane เพื่อความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดได้

• Pit Confirm
หลังจากได้ยินคำสั่ง “Box, Box, Box” นักแข่งสามารถยืนยันในการเข้า Pit ด้วยปุ่มนี้ได้

• Radio
ปุ่มที่นักแข่งใช้สื่อสารกับทีมงานในพิท

• Drink
ในระหว่างการแข่งขันแต่ละครั้งนักแข่งจะสูญเสียน้ำในร่างกายมากถึง 5-7 ปอนด์ เมื่อกดปุ่มนี้จะเป็นการเติมพลังงานให้กับนักแข่งทันที

• Overtake
บางครั้งเรียกกันว่า Push to Pass ช่วยให้นักแข่งมีกำลังเครื่องยนต์และไฮบริดเพิ่มขึ้นชั่วขณะเพื่อไปให้ถึงรถคันที่อยู่ด้านหน้าได้

• DRS
มาจากคำว่า Drag-Reduction System ซึ่งเป็นศัพท์เฉพาะสำหรับแอโรไดนามิกที่ใช้งานอยู่ ในกรณีของ Formula 1 เมื่อนักแข่งกดปุ่ม DRS บนพวงมาลัย และต้องอยู่ห่างจากรถคันหน้าไม่เกิน 1 วินาที อีกทั้งต้องอยู่ในโซน DRS ที่กำหนดไว้ ส่วนตรงกลางของปีกหลังจะเปิดขึ้นซึ่งจะช่วยลดแรงต้านได้ เมื่อเปิด DRS จะทำให้นักแข่งสามารถทำความเร็วได้เพิ่มขึ้น

• Other Secret Buttons
นอกจากปุ่มต่างๆ ที่จำเป็นต้องมีต่อการแข่งขันแล้ว ก็ยังมีปุ่มที่ออกแบบไว้อีกมากมายให้เหมาะสำหรับความลับในแง่ของการออกแบบ และการติดตั้ง ตลอดจนความต้องการของนักแข่งในแต่ละทีม

• Paddles
มักจะแบ่งออกเป็น 3 ชุดภายในพวงมาลัย Formula 1 แต่นักแข่งและทีมงานของแต่ละทีมอาจมีการตั้งค่า แตกต่างกันออกไปตามความถนัดและการออกแบบ ซึ่งด้านบนสามารถตั้งค่าให้นักแข่งเข้าถึงการตั้งค่าเชิงกลยุทธ์ การตั้งค่าเครื่องยนต์ หรือ DRS ได้อย่างรวดเร็ว ชุดกลางมีไว้สำหรับให้นักแข่งใช้เปลี่ยนเกียร์ และชุดล่างมีไว้สำหรับคลัทช์ ซึ่งใช้ในช่วงเริ่มการแข่งขัน หรือการวอร์มยาง

• Handles
เป็นด้ามจับบนพวงมาลัย จะถูกหล่อขึ้นรูปตามมือของนักแข่ง

• Quick-Release Hub
สิ่งนี้จะช่วยให้นักแข่งสามารถเข้าและออก Cockpit ได้ง่ายขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือไฟไหม้ก็ตาม

• Display
จอแสดงผลสำหรับนักแข่ง Formula 1 หน้าจอจะแสดงข้อมูลการวัดระยะทาง เกียร์ในปัจจุบัน เวลาต่อรอบ อีกทั้งเดลต้าไปยังด้านหน้าและด้านหลังรถ สถานะการชาร์จของแบตเตอรี่ เมนู และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพและปัญหาของรถ รวมถึงระบบเทเลเมติกส์อื่นๆ และทั้งหมดนี้สามารถประมวลผลออกมาได้อย่างรวดเร็ว จอแสดงผลนั้นอาจติดตั้งอยู่ที่พวงมาลัยหรือบนแผงหน้าปัดของรถแข่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถนัด และการออกแบบของทีมงานกับนักแข่ง

• RPM-Indicator LEDs
ไฟ LED สำหรับแสดงสถานะให้นักแข่งทราบเมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนเกียร์ นักแข่งมักจะมีการตั้งค่าในสีต่างๆ เพื่อแสดงถึง RPM ที่ต่ำและสูง สิ่งเหล่านี้จะอยู่บริเวณด้านบนของล้อหรือบริเวณแผงหน้าปัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า การออกแบบ และความถนัดของนักแข่ง 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก
https://www.thedrive.com/…/how-does-an-f1-steering…
และตัวอย่างพวงมาลัยสุดล้ำจาก Mercedes-AMG Petronas F1 Team