พระราชกรณียกิจสำคัญที่ได้สร้างรากฐานและคุณูปการอันยิ่งใหญ่

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นที่เทิดทูนยิ่งของปวงชนชาวไทยในฐานะ
“แม่แห่งแผ่นดิน” ตลอดพระชนมชีพ
ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความยั่งยืนให้แก่ประเทศชาติอย่างแท้จริง


พระราชกรณียกิจสำคัญที่ได้สร้างรากฐานและคุณูปการอันยิ่งใหญ่:

1. ด้านการส่งเสริมอาชีพและศิลปาชีพ
(การสร้างความมั่นคงในชีวิตและวัฒนธรรม)


ทรงมีพระราชดำริจัดตั้ง มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของราษฎรในชนบท
โดยการฟื้นฟูและสืบสานงานประณีตศิลป์พื้นบ้านของไทย อาทิ การทอผ้าไหม การปัก
และการจักสาน ซึ่งเป็นการเปลี่ยน “ภูมิปัญญาท้องถิ่น” ให้เป็น “อาชีพที่สร้างรายได้” อย่างยั่งยืน ส่งผลให้ศิลปวัฒนธรรมไทยได้รับการอนุรักษ์และเผยแพร่สู่สากล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ทรงได้รับการถวายพระเกียรติเป็น “ราชินีแห่งไหมไทย”




2. ด้านหัถตศิลป์

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โปรดผ้าทอพื้นเมืองมาโดยตลอดและ มีพระราชดำริว่า ควรจะส่งเสริมให้ราษฎรทอผ้าไหมมัดหมี่ไว้เป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว นอกเหนือจากอาชีพเกษตรกรรม “ศิลปาชีพ” ราชินีแห่งไหมไทย ทรงเป็นต้นแบบอนุรักษ์ผ้าไทยให้โด่งดังไกล

“ผ้าไหมไทย” คือภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพลิกฟื้นและส่งเสริมให้กลับมามีคุณค่าอีกครั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 หลังจากเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ประสบอุทกภัย ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ส่งเสริมการทอผ้าไหม เพื่อสร้างอาชีพและรายได้แก่ประชาชนทั่วประเทศ

ภายใต้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ พระองค์ทรงพัฒนางานหัตถศิลป์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ผ้าไหมไทยได้กลายเป็นฉลองพระองค์อันงดงาม จนในปี พ.ศ. 2505 พระองค์ทรงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสตรีที่แต่งกายงดงามที่สุดในโลก นำผ้าไทยสู่เวทีนานาชาติและฟื้นฟูให้กลับมาเป็นที่นิยมในสังคมไทยอีกครั้ง

ต่อมาในปี พ.ศ. 2563 กรมการพัฒนาชุมชนร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติฯ จัดทำโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน จนเกิดกระแสความนิยมอย่างกว้างขวาง ทั้งการประกวดผ้าทอ การเชิดชูเกียรติช่างฝีมือ และการจัดแฟชั่นโชว์ที่ปรับผ้าไทยให้ร่วมสมัยและสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน

3. ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (การดำรงอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับป่า)

ทรงให้ความสำคัญกับการรักษาความสมดุลทางธรรมชาติและระบบนิเวศ โดยมีพระราชปณิธานสำคัญที่ว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า” ทรงริเริ่มโครงการสำคัญมากมาย เช่น โครงการป่ารักน้ำ และ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมและพัฒนาแหล่งน้ำ ควบคู่ไปกับการจัดสรรที่ทำกินอย่างเหมาะสมแก่ราษฎร

นอกจากนี้ ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะโครงการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าและสัตว์น้ำที่ใกล้สูญพันธุ์ อาทิ โครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ทำให้ทรงได้รับการเทิดพระเกียรติเป็น “พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ”

4. ด้านการสาธารณสุข การศึกษา และการสังคมสงเคราะห์ (การดูแลทุกข์สุขของปวงชน)

การสาธารณสุข: ทรงจัดตั้ง มูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อดูแลช่วยเหลือทหาร ตำรวจ และพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศ รวมถึงทรงให้มี หน่วยแพทย์พระราชทาน เพื่อดูแลรักษาพยาบาลราษฎรในถิ่นทุรกันดาร

การศึกษาและแหล่งเรียนรู้: ทรงส่งเสริมการศึกษาอย่างเท่าเทียมและมีพระราชดำริให้จัดตั้ง ศาลารวมใจ ในพื้นที่ห่างไกล เพื่อเป็นห้องสมุดและศูนย์รวมความรู้ด้านต่างๆ ทั้งการเกษตร สุขภาพ และข่าวสารบ้านเมือง เป็นการพัฒนาความรู้และสุขอนามัยของราษฎรให้ดียิ่งขึ้น

5. ด้านการเกษตรและชลประทาน

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน โดยทรงเน้น การค้นคว้า ทดลอง และวิจัยพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ ที่เหมาะสมกับแต่ละท้องถิ่น เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ด้วยต้นทุนต่ำและเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน พร้อมทรงส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้หลายทาง เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาภัยธรรมชาติและความผันผวนของตลาด

จากพระราชดำริดังกล่าว ก่อเกิดเป็น โครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ เช่น ฟาร์มตัวอย่างสีบัวทอง จังหวัดอ่างทอง ซึ่งจัดตั้งขึ้นหลังเหตุอุทกภัยปี 2549 เพื่อให้เป็นแหล่งอาหารและที่พักชั่วคราวแก่ผู้ประสบภัย

แนวคิดฟาร์มตัวอย่างเริ่มต้นมากว่า 20 ปีก่อน ที่บ้านขุนแตะ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เลิกยาเสพติดและขาดอาชีพ ด้วยการสอนการเกษตรครบวงจร ทั้งปลูกพืชผัก ผลไม้ เลี้ยงสัตว์ และประมง จนขยายผลไปทั่วประเทศ กลายเป็น ศูนย์เรียนรู้เกษตรครบวงจร ที่หล่อเลี้ยงชีวิตเกษตรกรไทย

ต่อมาในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสานพระราชปณิธานในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎร โดยพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พื้นที่ ฟาร์มตัวอย่างฯ จำนวน 30 แห่ง จาก 61 แห่งทั่วประเทศ ดำเนิน “โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ต้านภัยโควิด-19” เพื่อสร้างงานและรายได้แก่ประชาชนในช่วงวิกฤติโรคระบาด

120867 5

28-8-2550_img25-Edit

นกขมิ้น บินถลาลงใต้-10

 

ด้วยรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

ข้าพระพุทธเจ้า คณะกรรมการ ผู้บริหารและพนักงาน

บริษัท เรซซิ่ง สปิริต จำกัด

Start a Conversation

Your email address will not be published. Required fields are marked *